วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เพลงยาวสดุดีท่านสุนทรภู่

ถึงแม้ว่าจะผ่านวันสุนทรภู่ ครูกวีของไทย ไปเกือบเดือนแล้วก็ตาม...แต่เพลงยาวนั้น เราสามารถเขียนขึ้นได้ทุกวัน ไม่มีกำหนด... ดังนั้น ขอเปิด blog นี้ด้วยเพลงยาวสดุดีท่านสุนทรภู่


        ๏ จะขอกล่าวคำกลอนอักษรสมัย
เป็นคารมคมชัดประหวัดใจ.......................เชลงไว้สดุดีมีประมาณ

๏ ยี่สิบหกมิถุนาฯมาบรรจบ..................กำหนดครบจบรอบกรอบสถาน  
สุนทรภู่ครูกวีศรีสังวาลย์.......................ศาสตราจารย์กานท์กลอนอักษรไทย

๏ งานประดิษฐ์คิดอักษรกลอนลึกซึ้ง..........ช่างน่าทึ่งเทียวหนาอย่าสงสัย  
ทั้งคำคมคำเพราะเสนาะใจ.....................โอ้ว่าใครอ่านแล้วย่อมแคล้วตาม

๏ หากสดับซึ่งนิทานงานนิราศ..................เขาประกาศทั่วกันฉันสยาม
 ซึ่งหน่อพระอภัยฯใจงดงาม..................... ทุกเขตคามรู้จักทั่วทุกตัวคน  

๏ จะหาใครไม่รู้ดูเอาเถิด....................... เว้นแต่เกิดชนบทจรดฝน
คำพูดที่ติดปากจากบุคคล....................... ล้วนจากมนต์ร่ายไว้ในกาพย์กลอน  

๏ ในนิราศรำพันช่างฝันถึง........................โอ้ลึกซึ้งเทียวหนาหน้าอักษร
ถึงคนรักพลัดพรากจำจากจร..................... แต่ปางก่อนมีกรรมจำต้องไป  

๏ โอ้เขนยเคยแอบเคยแนบชิด................... เคยจุมพิตพักตร์น้องละอองไหน
ยี่ภู่เอ๋ยเคยแอบแนบหทัย......................... บัดนี้ไกลกลอยสวาทเพราะคลาดคลา

๏ คิดถึงน้องหมองเศร้าให้เปล่าเปลี่ยว........... ห้อยละเหี่ยวเหมือนนกตกเวหา
ประดุจพรากสุริยันพระจันทรา...................... อนิจจาบุญน้อยพลอยลำเค็ญ

๏ ซึ่งกล่าวนี้ตัวอย่างจากทางศิลป์................... ให้ยลยินเผื่อใครจะไม่เห็น
กระบวนกลอนประโลมใจให้เยือกเย็น................. เราแต่งเป็นเลียนแบบทำแนบเคียง  

๏ มิพิเราะดุจเดิมท่านเสริมสร้าง...................... ด้วยอ่อนทางคำศัพท์สดับเสียง
ได้โปรดช่วยกรุณามาเรียบเรียง....................... ทำสำเนียงให้เพราะเสนาะกรรณ

๏ จะขอกล่าวต่อไปในอักษร........................... ถึงคำกลอนกาพย์พามหาศวรรย์  
สุนทรภู่ครูกวีศรีสุบรรณ................................ ทำหมื่นพันกวีไทยให้บรรจง

๏ หากเชลงเพลงยาวสกาวจิต......................... ขอให้ชิดสัมผัสในใจประสงค์ 
 ด้วยกวีก่อนเก่าเขาไม่ลง................................ เสนาะคงสูญไปในพริบตา  

๏ ท่านริเริ่มเสริมสร้างทางสัมผัส...................... กระบวนทัศน์์กลอนใหม่ในภาษา
เป็นกลอนกลมนต์เวทย์วิเศษมา........................ นึกแล้วน่าชื่นชมคารมพร

๏ จะขอกล่าวต่อไปในบัดนี้........................... ให้สุดที่เรียงความตามอักษร  
อีกอย่างหนึ่งซึ่งติดสนิทกลอน........................... รสบวรภาษิตสนิทใจ

๏ หวังผู้อ่านสำเหนียกเพรียกในจิต...................... คำบัณฑิตรจนาอัชฌาศัย
ผู้ประพฤติตามคำตำรับนัย..............................   บรรลุไซร้สวัสดีทุกที่นา

๏ อนึ่งผู้พจน์ดีเป็นศรีศักดิ์..............................   คนย่อมรักทุกชาติภาษภาษา 
ประดุจแม้นพจมานลานผกา...............................  กุสุมาประยงค์พงศ์โภคิน

๏ อันความรู้วิทยาวิชานับ.............................   ประดุจทรัพย์หมื่นแสนไม่แม้นสิ้น 
อาจจะชักเชิดชูฟูชีวิน.................................   ทั่วแผ่นดินพสุธาพานิยม

๏ เอกอาภรณ์ประจำกายทั้งหลายแล้ว...............  อย่าให้แคล้วหมั่นศึกษาพาประสม
รู้วิชาพาวิเศษเดชอุดม...............................  ผิจะสมรักษ์ตัวไว้เป็นไม่มี

๏ เป็นคำสุภาษิตประดิษฐ์ถ้อย......................   ถึงหลายร้อยศกผ่านกาลฉวี
ผองเหล่าไทยจดคำจำไว้ดี........................    ด้วยสมที่วรรคทองครรลองกลอน

๏ อัญขยมกล่าวคำลำนำพจน์......................  แต่ละบทบรรจงลงอักษร
ไว้แต่คราววัยดรุณได้สุนทร .......................   หวังขจรเกียรติกวีศรีโลกา

๏ สรุปมธุสรไว้ในวันนี้.......................   หากแม้นมีโทษลบองของภาษา
ขอโกวิทโปรดอภัยไว้เถิดมา.......................   แก่ตัวข้าฯผู้เยาว์อ่อนเบาความ

๏ ขอวิญญาณท่านสุนทรอักษรแพร้ว................ กวีแก้วแห่งโลกานาสยาม 
โปรดประทานพรเลิศประเสริฐนาม.................. สุพจน์ความแด่เมืองไทยในคดี

๏ ขอวงศ์วานแห่งกวินท์จินต์พิสิฐ.................  จักสถิตพูนเพริศประเสริฐศรี
สืบพราวพรายผกายรสบทกวี......................ตราบสุรีย์ส่องสว่างกลางนภา

๏ จวบนิรันดร์ผันแปรให้แท้เที่ยง...................... ประดุจเพียงสัจจังทั้งเวหา
ตามฤทัยในพจน์บทวาจา..............................แห่งตูข้าฯผู้เชลงเพลงนี้เอย ฯะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น