ถึงแม้ว่าจะผ่านวันสุนทรภู่ ครูกวีของไทย ไปเกือบเดือนแล้วก็ตาม...แต่เพลงยาวนั้น เราสามารถเขียนขึ้นได้ทุกวัน ไม่มีกำหนด... ดังนั้น ขอเปิด blog นี้ด้วยเพลงยาวสดุดีท่านสุนทรภู่
๏ จะขอกล่าวคำกลอนอักษรสมัย
เป็นคารมคมชัดประหวัดใจ.......................เชลงไว้สดุดีมีประมาณ
๏ ยี่สิบหกมิถุนาฯมาบรรจบ..................กำหนดครบจบรอบกรอบสถาน
สุนทรภู่ครูกวีศรีสังวาลย์.......................ศาสตราจารย์กานท์กลอนอักษรไทย
๏ งานประดิษฐ์คิดอักษรกลอนลึกซึ้ง..........ช่างน่าทึ่งเทียวหนาอย่าสงสัย
ทั้งคำคมคำเพราะเสนาะใจ.....................โอ้ว่าใครอ่านแล้วย่อมแคล้วตาม
๏ หากสดับซึ่งนิทานงานนิราศ..................เขาประกาศทั่วกันฉันสยาม
ซึ่งหน่อพระอภัยฯใจงดงาม..................... ทุกเขตคามรู้จักทั่วทุกตัวคน
๏ จะหาใครไม่รู้ดูเอาเถิด....................... เว้นแต่เกิดชนบทจรดฝน
คำพูดที่ติดปากจากบุคคล....................... ล้วนจากมนต์ร่ายไว้ในกาพย์กลอน
๏ ในนิราศรำพันช่างฝันถึง........................โอ้ลึกซึ้งเทียวหนาหน้าอักษร
ถึงคนรักพลัดพรากจำจากจร..................... แต่ปางก่อนมีกรรมจำต้องไป
๏ โอ้เขนยเคยแอบเคยแนบชิด................... เคยจุมพิตพักตร์น้องละอองไหน
ยี่ภู่เอ๋ยเคยแอบแนบหทัย......................... บัดนี้ไกลกลอยสวาทเพราะคลาดคลา
๏ คิดถึงน้องหมองเศร้าให้เปล่าเปลี่ยว........... ห้อยละเหี่ยวเหมือนนกตกเวหา
ประดุจพรากสุริยันพระจันทรา...................... อนิจจาบุญน้อยพลอยลำเค็ญ
๏ ซึ่งกล่าวนี้ตัวอย่างจากทางศิลป์................... ให้ยลยินเผื่อใครจะไม่เห็น
กระบวนกลอนประโลมใจให้เยือกเย็น................. เราแต่งเป็นเลียนแบบทำแนบเคียง
๏ มิพิเราะดุจเดิมท่านเสริมสร้าง...................... ด้วยอ่อนทางคำศัพท์สดับเสียง
ได้โปรดช่วยกรุณามาเรียบเรียง....................... ทำสำเนียงให้เพราะเสนาะกรรณ
๏ จะขอกล่าวต่อไปในอักษร........................... ถึงคำกลอนกาพย์พามหาศวรรย์
สุนทรภู่ครูกวีศรีสุบรรณ................................ ทำหมื่นพันกวีไทยให้บรรจง
๏ หากเชลงเพลงยาวสกาวจิต......................... ขอให้ชิดสัมผัสในใจประสงค์
ด้วยกวีก่อนเก่าเขาไม่ลง................................ เสนาะคงสูญไปในพริบตา
๏ ท่านริเริ่มเสริมสร้างทางสัมผัส...................... กระบวนทัศน์์กลอนใหม่ในภาษา
เป็นกลอนกลมนต์เวทย์วิเศษมา........................ นึกแล้วน่าชื่นชมคารมพร
๏ จะขอกล่าวต่อไปในบัดนี้........................... ให้สุดที่เรียงความตามอักษร
อีกอย่างหนึ่งซึ่งติดสนิทกลอน........................... รสบวรภาษิตสนิทใจ
๏ หวังผู้อ่านสำเหนียกเพรียกในจิต...................... คำบัณฑิตรจนาอัชฌาศัย
ผู้ประพฤติตามคำตำรับนัย.............................. บรรลุไซร้สวัสดีทุกที่นา
๏ อนึ่งผู้พจน์ดีเป็นศรีศักดิ์.............................. คนย่อมรักทุกชาติภาษภาษา
ประดุจแม้นพจมานลานผกา............................... กุสุมาประยงค์พงศ์โภคิน
๏ อันความรู้วิทยาวิชานับ............................. ประดุจทรัพย์หมื่นแสนไม่แม้นสิ้น
อาจจะชักเชิดชูฟูชีวิน................................. ทั่วแผ่นดินพสุธาพานิยม
๏ เอกอาภรณ์ประจำกายทั้งหลายแล้ว............... อย่าให้แคล้วหมั่นศึกษาพาประสม
รู้วิชาพาวิเศษเดชอุดม............................... ผิจะสมรักษ์ตัวไว้เป็นไม่มี
๏ เป็นคำสุภาษิตประดิษฐ์ถ้อย...................... ถึงหลายร้อยศกผ่านกาลฉวี
ผองเหล่าไทยจดคำจำไว้ดี........................ ด้วยสมที่วรรคทองครรลองกลอน
๏ อัญขยมกล่าวคำลำนำพจน์...................... แต่ละบทบรรจงลงอักษร
ไว้แต่คราววัยดรุณได้สุนทร ....................... หวังขจรเกียรติกวีศรีโลกา
๏ สรุปมธุสรไว้ในวันนี้....................... หากแม้นมีโทษลบองของภาษา
ขอโกวิทโปรดอภัยไว้เถิดมา....................... แก่ตัวข้าฯผู้เยาว์อ่อนเบาความ
๏ ขอวิญญาณท่านสุนทรอักษรแพร้ว................ กวีแก้วแห่งโลกานาสยาม
โปรดประทานพรเลิศประเสริฐนาม.................. สุพจน์ความแด่เมืองไทยในคดี
๏ ขอวงศ์วานแห่งกวินท์จินต์พิสิฐ................. จักสถิตพูนเพริศประเสริฐศรี
สืบพราวพรายผกายรสบทกวี......................ตราบสุรีย์ส่องสว่างกลางนภา
๏ จวบนิรันดร์ผันแปรให้แท้เที่ยง...................... ประดุจเพียงสัจจังทั้งเวหา
ตามฤทัยในพจน์บทวาจา..............................แห่งตูข้าฯผู้เชลงเพลงนี้เอย ฯะ
๏ จะขอกล่าวคำกลอนอักษรสมัย
เป็นคารมคมชัดประหวัดใจ.......................เชลงไว้สดุดีมีประมาณ
๏ ยี่สิบหกมิถุนาฯมาบรรจบ..................กำหนดครบจบรอบกรอบสถาน
สุนทรภู่ครูกวีศรีสังวาลย์.......................ศาสตราจารย์กานท์กลอนอักษรไทย
๏ งานประดิษฐ์คิดอักษรกลอนลึกซึ้ง..........ช่างน่าทึ่งเทียวหนาอย่าสงสัย
ทั้งคำคมคำเพราะเสนาะใจ.....................โอ้ว่าใครอ่านแล้วย่อมแคล้วตาม
๏ หากสดับซึ่งนิทานงานนิราศ..................เขาประกาศทั่วกันฉันสยาม
ซึ่งหน่อพระอภัยฯใจงดงาม..................... ทุกเขตคามรู้จักทั่วทุกตัวคน
๏ จะหาใครไม่รู้ดูเอาเถิด....................... เว้นแต่เกิดชนบทจรดฝน
คำพูดที่ติดปากจากบุคคล....................... ล้วนจากมนต์ร่ายไว้ในกาพย์กลอน
๏ ในนิราศรำพันช่างฝันถึง........................โอ้ลึกซึ้งเทียวหนาหน้าอักษร
ถึงคนรักพลัดพรากจำจากจร..................... แต่ปางก่อนมีกรรมจำต้องไป
๏ โอ้เขนยเคยแอบเคยแนบชิด................... เคยจุมพิตพักตร์น้องละอองไหน
ยี่ภู่เอ๋ยเคยแอบแนบหทัย......................... บัดนี้ไกลกลอยสวาทเพราะคลาดคลา
๏ คิดถึงน้องหมองเศร้าให้เปล่าเปลี่ยว........... ห้อยละเหี่ยวเหมือนนกตกเวหา
ประดุจพรากสุริยันพระจันทรา...................... อนิจจาบุญน้อยพลอยลำเค็ญ
๏ ซึ่งกล่าวนี้ตัวอย่างจากทางศิลป์................... ให้ยลยินเผื่อใครจะไม่เห็น
กระบวนกลอนประโลมใจให้เยือกเย็น................. เราแต่งเป็นเลียนแบบทำแนบเคียง
๏ มิพิเราะดุจเดิมท่านเสริมสร้าง...................... ด้วยอ่อนทางคำศัพท์สดับเสียง
ได้โปรดช่วยกรุณามาเรียบเรียง....................... ทำสำเนียงให้เพราะเสนาะกรรณ
๏ จะขอกล่าวต่อไปในอักษร........................... ถึงคำกลอนกาพย์พามหาศวรรย์
สุนทรภู่ครูกวีศรีสุบรรณ................................ ทำหมื่นพันกวีไทยให้บรรจง
๏ หากเชลงเพลงยาวสกาวจิต......................... ขอให้ชิดสัมผัสในใจประสงค์
ด้วยกวีก่อนเก่าเขาไม่ลง................................ เสนาะคงสูญไปในพริบตา
๏ ท่านริเริ่มเสริมสร้างทางสัมผัส...................... กระบวนทัศน์์กลอนใหม่ในภาษา
เป็นกลอนกลมนต์เวทย์วิเศษมา........................ นึกแล้วน่าชื่นชมคารมพร
๏ จะขอกล่าวต่อไปในบัดนี้........................... ให้สุดที่เรียงความตามอักษร
อีกอย่างหนึ่งซึ่งติดสนิทกลอน........................... รสบวรภาษิตสนิทใจ
๏ หวังผู้อ่านสำเหนียกเพรียกในจิต...................... คำบัณฑิตรจนาอัชฌาศัย
ผู้ประพฤติตามคำตำรับนัย.............................. บรรลุไซร้สวัสดีทุกที่นา
๏ อนึ่งผู้พจน์ดีเป็นศรีศักดิ์.............................. คนย่อมรักทุกชาติภาษภาษา
ประดุจแม้นพจมานลานผกา............................... กุสุมาประยงค์พงศ์โภคิน
๏ อันความรู้วิทยาวิชานับ............................. ประดุจทรัพย์หมื่นแสนไม่แม้นสิ้น
อาจจะชักเชิดชูฟูชีวิน................................. ทั่วแผ่นดินพสุธาพานิยม
๏ เอกอาภรณ์ประจำกายทั้งหลายแล้ว............... อย่าให้แคล้วหมั่นศึกษาพาประสม
รู้วิชาพาวิเศษเดชอุดม............................... ผิจะสมรักษ์ตัวไว้เป็นไม่มี
๏ เป็นคำสุภาษิตประดิษฐ์ถ้อย...................... ถึงหลายร้อยศกผ่านกาลฉวี
ผองเหล่าไทยจดคำจำไว้ดี........................ ด้วยสมที่วรรคทองครรลองกลอน
๏ อัญขยมกล่าวคำลำนำพจน์...................... แต่ละบทบรรจงลงอักษร
ไว้แต่คราววัยดรุณได้สุนทร ....................... หวังขจรเกียรติกวีศรีโลกา
๏ สรุปมธุสรไว้ในวันนี้....................... หากแม้นมีโทษลบองของภาษา
ขอโกวิทโปรดอภัยไว้เถิดมา....................... แก่ตัวข้าฯผู้เยาว์อ่อนเบาความ
๏ ขอวิญญาณท่านสุนทรอักษรแพร้ว................ กวีแก้วแห่งโลกานาสยาม
โปรดประทานพรเลิศประเสริฐนาม.................. สุพจน์ความแด่เมืองไทยในคดี
๏ ขอวงศ์วานแห่งกวินท์จินต์พิสิฐ................. จักสถิตพูนเพริศประเสริฐศรี
สืบพราวพรายผกายรสบทกวี......................ตราบสุรีย์ส่องสว่างกลางนภา
๏ จวบนิรันดร์ผันแปรให้แท้เที่ยง...................... ประดุจเพียงสัจจังทั้งเวหา
ตามฤทัยในพจน์บทวาจา..............................แห่งตูข้าฯผู้เชลงเพลงนี้เอย ฯะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น